http://www.facebook.com/photo.php?fbid=466724663354944&set=a.392546744106070.106002.297267983633947&type=1&theater
นครราชสีมา-รวบยกแก๊งโกงสอบเข้าตำรวจ ยึดเงินสดกว่า 10 ล้านตำรวจนครราชสีมาขยายผลรวบยกแก๊งโกงสอบเข้าตำรวจ ยึดเงินสดได้กว่า 10 ล้านบาท เผยจะให้กลุ่มผู้สมัครสอบมาอบรมวิธีใช้อุปกรณ์การโกงทำข้อสอบก่อนเข้าสอบ 1 วัน
วันนี้ (11 มิ.ย.2555) เวลา 11.00 น. พลตำรวจตรี จักรทิพย์ โหละสุตสกุล พลตำรวจตรี กรกต สาริยา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการโกงข้อสอบการสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ซึ่งเปิดสอบข้อเขียนพร้อมกันทั้งประเทศ เมื่อวานนี้( 10 มิ.ย.) ได้ผู้ต้องหายกแก๊งรวม 5 คน ประกอบด้วย นางเตือนใจ พงษ์พันธ์ อายุ 45 ปี นายธนากร วิเศษ อายุ 36 ปี นางศตพร วิเศษ อายุ 37 ปี นายปัญญาศักดิ์ นิลเพ็ชร อายุ 30 ปี และนายสมชาย แสงทอง อายุ 49 ปี ทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมยึดเงินสดที่เรียกรับจากผู้สมัครเข้าสอบคัดเลือก รวม 10.5 ล้านบาท เอกสารประจำตัวผู้สมัครสอบ วิทยุสื่อสารติดซิมโทรศัพท์ที่ใช้เป็นตัวส่งสัญญาณ 2 เครื่อง แผงวงจรอิเล็คทรอนิกส์ตัวรับสัญญาณที่ยึดได้จากตัวผู้สมัครเข้าสอบแข่งขันจำนวน 22 ชุด และสามารถจับกุมผู้สมัครสอบที่ทุจริตตามสนามสอบต่างๆทั่วจังหวัดนครราชสีมาได้อีก รวม 20 คน
ทั้งนี้ก่อนการสอบเมื่อวานนี้ ดาบตำรวจพิษณุ ยุวรัตน์ ผู้บังคับหมู่สืบสวนสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทำหน้าที่กรรมการผู้ควบคุมการสอบ ประจำสนามสอบอาคาร 2 โรงเรียนสุขานารี เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ได้ตรวจค้นจับกุมผู้สมัครสอบรายหนึ่ง ซึ่งภายในตัวพบเครื่องมือรับสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์แบบประดิษฐ์ขึ้นเอง จากการขยายผลสามารถยึดอุปกรณ์แบบเดียวกันได้อีกรวม 22 ชุด และจับกุมผู้เข้าสอบที่ทุจริตตามสนามสอบต่างๆ ได้อีกรวม 20 คน
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เข้าสอบที่ทุจริตส่วนใหญ่เดินทางมาจากจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีด้วยกันประมาณ 30 คน โดยขึ้นรถตู้โดยสารมาทั้งหมดจำนวน 3 คัน และได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครราชสีมา โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะนำผู้เข้าสอบมาอบรมสอนวิธีใช้เครื่องอุปกรณ์ที่ทุจริตก่อนเข้าสอบ 1 วัน และจะแจกอุปกรณ์สื่อสารในตอนเช้าก่อนเข้าห้องสอบ โดยอุปกรณ์ดังกล่าวจะส่งสัญญาณเป็นคลื่นสั่นสะเทือน เพื่อเป็นรหัสคำตอบในข้อสอบแต่ละข้อ
นางเตือนใจ พงษ์พันธ์ 1 ในผู้ต้องหาให้การว่า เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ และเป็นอาจารย์รับสอนพิเศษให้กับเด็กนักเรียนด้วย จึงรู้จักมักคุ้นกับเด็กนักเรียนในจังหวัดศรีสะเกษเป็นอย่างดี และยังได้รู้จักกับบุคคลคนหนึ่ง ที่อ้างว่าสามารถทุจริตการสอบรับข้าราชการตำรวจได้ จึงกระจายบอกข่าวผ่านไปยังเด็กนักเรียนที่รู้จัก โดยหากสอบได้จะเรียกรับเงินจำนวน 350,000 บาทต่อผู้เข้าสอบ 1 ราย เป็นค่าตอบแทน แต่จะเก็บเงินค่ามัดจำก่อนรายละ 10,000 - 30,000 บาท แต่หากสอบไม่ผ่านก็จะคืนเงินให้ทั้งหมด ซึ่งมีผู้ปกครองและเด็กนักเรียนหลงเชื่อจ่ายเงินค่ามัดจำ และบางส่วนถึงกับทำสัญญาเงินกู้จ่ายเงินทั้งหมดก่อนด้วย เพื่อหวังว่าจะให้บุตรหลานของตนเองสอบเข้าเป็นตำรวจได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และมีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามผู้ที่อยู่เบื้องหลังต่อไป ขณะที่ผู้สมัครสอบที่ทุจริตทั้ง 20 คนตำรวจกันไว้เป็นพยาน
นอกจากนี้ตำรวจยังสามารถจับกุมผู้เข้าสอบที่ใช้บัตรประจำตัวประชาชนปลอมได้อีก 1 คน ซึ่งรับสารภาพว่า ปลอมบัตรประชาชนเพื่อมาเข้าสอบแทน ตำรวจจึงแจ้งข้อหาปลอมและใช้บัตรประจำตัวประชาชนปลอม ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (11 มิ.ย.2555) เวลา 11.00 น. พลตำรวจตรี จักรทิพย์ โหละสุตสกุล พลตำรวจตรี กรกต สาริยา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการโกงข้อสอบการสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ซึ่งเปิดสอบข้อเขียนพร้อมกันทั้งประเทศ เมื่อวานนี้( 10 มิ.ย.) ได้ผู้ต้องหายกแก๊งรวม 5 คน ประกอบด้วย นางเตือนใจ พงษ์พันธ์ อายุ 45 ปี นายธนากร วิเศษ อายุ 36 ปี นางศตพร วิเศษ อายุ 37 ปี นายปัญญาศักดิ์ นิลเพ็ชร อายุ 30 ปี และนายสมชาย แสงทอง อายุ 49 ปี ทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมยึดเงินสดที่เรียกรับจากผู้สมัครเข้าสอบคัดเลือก รวม 10.5 ล้านบาท เอกสารประจำตัวผู้สมัครสอบ วิทยุสื่อสารติดซิมโทรศัพท์ที่ใช้เป็นตัวส่งสัญญาณ 2 เครื่อง แผงวงจรอิเล็คทรอนิกส์ตัวรับสัญญาณที่ยึดได้จากตัวผู้สมัครเข้าสอบแข่งขันจำนวน 22 ชุด และสามารถจับกุมผู้สมัครสอบที่ทุจริตตามสนามสอบต่างๆทั่วจังหวัดนครราชสีมาได้อีก รวม 20 คน
ทั้งนี้ก่อนการสอบเมื่อวานนี้ ดาบตำรวจพิษณุ ยุวรัตน์ ผู้บังคับหมู่สืบสวนสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทำหน้าที่กรรมการผู้ควบคุมการสอบ ประจำสนามสอบอาคาร 2 โรงเรียนสุขานารี เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ได้ตรวจค้นจับกุมผู้สมัครสอบรายหนึ่ง ซึ่งภายในตัวพบเครื่องมือรับสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์แบบประดิษฐ์ขึ้นเอง จากการขยายผลสามารถยึดอุปกรณ์แบบเดียวกันได้อีกรวม 22 ชุด และจับกุมผู้เข้าสอบที่ทุจริตตามสนามสอบต่างๆ ได้อีกรวม 20 คน
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เข้าสอบที่ทุจริตส่วนใหญ่เดินทางมาจากจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีด้วยกันประมาณ 30 คน โดยขึ้นรถตู้โดยสารมาทั้งหมดจำนวน 3 คัน และได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครราชสีมา โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะนำผู้เข้าสอบมาอบรมสอนวิธีใช้เครื่องอุปกรณ์ที่ทุจริตก่อนเข้าสอบ 1 วัน และจะแจกอุปกรณ์สื่อสารในตอนเช้าก่อนเข้าห้องสอบ โดยอุปกรณ์ดังกล่าวจะส่งสัญญาณเป็นคลื่นสั่นสะเทือน เพื่อเป็นรหัสคำตอบในข้อสอบแต่ละข้อ
นางเตือนใจ พงษ์พันธ์ 1 ในผู้ต้องหาให้การว่า เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ และเป็นอาจารย์รับสอนพิเศษให้กับเด็กนักเรียนด้วย จึงรู้จักมักคุ้นกับเด็กนักเรียนในจังหวัดศรีสะเกษเป็นอย่างดี และยังได้รู้จักกับบุคคลคนหนึ่ง ที่อ้างว่าสามารถทุจริตการสอบรับข้าราชการตำรวจได้ จึงกระจายบอกข่าวผ่านไปยังเด็กนักเรียนที่รู้จัก โดยหากสอบได้จะเรียกรับเงินจำนวน 350,000 บาทต่อผู้เข้าสอบ 1 ราย เป็นค่าตอบแทน แต่จะเก็บเงินค่ามัดจำก่อนรายละ 10,000 - 30,000 บาท แต่หากสอบไม่ผ่านก็จะคืนเงินให้ทั้งหมด ซึ่งมีผู้ปกครองและเด็กนักเรียนหลงเชื่อจ่ายเงินค่ามัดจำ และบางส่วนถึงกับทำสัญญาเงินกู้จ่ายเงินทั้งหมดก่อนด้วย เพื่อหวังว่าจะให้บุตรหลานของตนเองสอบเข้าเป็นตำรวจได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และมีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามผู้ที่อยู่เบื้องหลังต่อไป ขณะที่ผู้สมัครสอบที่ทุจริตทั้ง 20 คนตำรวจกันไว้เป็นพยาน
นอกจากนี้ตำรวจยังสามารถจับกุมผู้เข้าสอบที่ใช้บัตรประจำตัวประชาชนปลอมได้อีก 1 คน ซึ่งรับสารภาพว่า ปลอมบัตรประชาชนเพื่อมาเข้าสอบแทน ตำรวจจึงแจ้งข้อหาปลอมและใช้บัตรประจำตัวประชาชนปลอม ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวครอบครัวข่าว3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น