วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง ยืนยันรัฐบาลมีแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ

มหาดไทย เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง ยืนยันรัฐ มีแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ มีน้ำประปาพอใช้  พร้อมขอให้ประชาชนประหยัดน้ำ
                พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า สถานการณ์ในขณะนี้มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยมีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผลกระทบขึ้นต่อพี่น้องประชาชน ปัจจุบันมีจังหวัดที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(ภัยแล้ง 18 จังหวัด รวม 68 อำเภอ 306 ตำบล 2580 หมู่บ้าน )  โดยกระทรวงมหาดไทยขอเรียนให้ทราบว่า ที่ผ่านมาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการพยายามแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างเต็มที่ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อบริหารจัดการน้ำต้นทุนทั้งหมดที่มีให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้ง  และสามารถรักษาระบบนิเวศน์ แต่อาจไม่เพียงพอต่อการสนับสนุนภาคเกษตรกรรมได้ตามปกติ เนื่องจากเรามีปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศอยู่ในเกณฑ์น้อย โดยได้มีการว่างแผนบริหารจัดการน้ำ และให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบภัย ดังนี้
                ด้านการบริหารจัดการน้ำ ได้สำรวจน้ำต้นทุนที่มีทั้งระบบในเขตชลประทาน นอกเขตชลประทาน น้ำใต้ดินหรือน้ำบาดาล เพื่อวางแผนจัดสรรน้ำให้เพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง ซึ่งสำคัญอันดับแรก คือ ประชาชนต้องมีน้ำอุปโภคบริโภค โดยกระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้การประปาส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง วางมาตรการบริหารจัดการน้ำต้นทุนที่จะนำมาผลิตน้ำประปาให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 และมีการสำรวจแหล่งน้ำสำรองเพื่อเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยได้ประสานงานกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด ซึ่งกรมชลประทานยืนยันพร้อมบริหารจัดการน้ำดิบส่งให้การประปา  เพื่อผลิตน้ำประปาให้บริการประชาชนได้อย่างเพียงพอ เป็นอันดับแรกตามนโยบายของรัฐบาล จึงขอเรียนยืนยันให้ความมั่นใจว่าจะไม่ขาดแคลนน้ำประปาอย่างแน่นอน
                นอกจากนี้ยังมีระบบ ประปาหมู่บ้าน ที่อยู่ในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในปัจจุบันมีประปาหมู่บ้านเกือบทั่วประเทศแล้ว เหลืออีกประมาณ 1026 หมู่บ้านเท่าน้ำที่ยังไม่มี โดยในปีนี้กระทรวงมหาดไทย ได้สนับสนุนงบประมาณก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนไปแล้ว จำนวน 328 หมู่บ้าน รวมถึงได้ดำเนินการซ่อมแซมบำรุงรักษาระบบประปาหมู่บ้านที่มีอยู่แล้วให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องมีระบบประปาหมู่บ้านครบทุกหมู่บ้านในปี 2560 เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้น้ำอย่างสะดวกเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ในขณะเดียวกันก็ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้คนไทยทุกคนช่วยกันประหยัดมาอย่างต่อเนื่องด้วย
                ด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการจัดสรรน้ำในพื้นที่ประสบภัยแล้งอย่างทั่วถึงเป็นอันดับแรก และการใช้ประโยชน์จากน้ำทุกแหล่งให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้งบประมาณในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง แยกเป็น 2 ส่วน คือ งบประมาณที่ใช้ในการยับยั้งหรือป้องภัยภัยพิบัติ วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถใช้จ่ายเงินได้โดยไม่ต้องประกาศเขตฯ ในรูปแบบการจ้างงานประชาชน การดำเนินกิจกรรมป้องกันและยับยั้งความเสียหายจากภัยพิบัติ และงบประมาณเพื่อความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน วงเงิน 50 ล้านบาท ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(ภัยแล้ง) เพิ่มเติมอีกจังหวัดละ 30 ล้านบาท จากเดิมจังหวัดละ 20 ล้านบาท รวมเป็น 50 ล้านบาท โดยขยายให้ทุกจังหวัดครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้จังหวัดมีความคล่องตัวในการใช้จ่ายเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในด้านต่างๆ ทั้งด้านการดำรงชีพ การบรรเทาสาธารณภัย  การแพทย์ และการสาธารณสุข และการปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยกำชับให้ทุกจังหวัดตรวจสอบปริมาณน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะ และแหล่งน้ำตามธรรมชาติในพื้นที่ พร้อมสำรวจจุดเสี่ยงที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก เพื่อวางแผนรับมือและจัดสรรน้ำให้เพียงพอต่อการใช้งาน กรณีแหล่งน้ำสำรองไม่เพียงพอเน้นการจัดหาน้ำสนับสนุนเพิ่มเติมด้วยการนำน้ำใต้ดินมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ การสูบน้ำสนับสนุนแหล่งน้ำดิบ พร้อมใช้รถบรรทุกน้ำจัดส่งน้ำให้กับพื้นที่ขาดแคลนน้ำ โดยแบ่งมอบพื้นที่ในการดูแลรับผิดชอบอย่างชัดเจน ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 18 จังหวัด  นอกจากนี้ให้ใช้กลไกของฝ่ายปกครอง ทั้งนายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงจัดชุดปฏิบัติการสำรวจเส้นทางการไหลของน้ำ เพื่อป้องกันมิให้มีการปิดกั้นและลักลอบสูบน้ำนำไปใช้ผิดประเภทจนส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาและน้ำในการผลักดันน้ำเค็ม
               เกี่ยวกับปัญหาหมอกควันในจังหวัดภาคเหนือ ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันว่ามี 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง พะเยา น่าน ตาก เชียงใหม่ และแพร่ มีค่าเฉลี่ยหมอกควันเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดเปิดศูนย์ปฏิบัติการฯ กรณีหมอกควัน เพื่อติดตามและร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบหมอกควัน รวมทั้งกำชับให้ความรู้คำแนะนำการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน ที่น่าเป็นห่วงคือ 4 กลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบง่ายกว่าคนทั่วไป คือผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ ขอให้หลีกเลี่ยงออกนอกบ้าน งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้สำรองหน้ากากอนามัยไว้ ทั้งหมด 980,000 ชิ้น และในวันนี้ได้จัดส่งหน้ากากอนามัยให้ 8 จังหวัดภาคเหนือ จ.ราชบุรี และ จ.เพชรบุรี รวม 350,000 ชิ้น สำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 630,000 ชิ้น พร้อมให้สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ เตรียมยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้บริการผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง ภาพรวมผลกระทบด้านสุขภาพยังไม่พบประชาชนมีอาการรุนแรง พบป่วยใน 4 กลุ่มโรค คือตาอักเสบ ผิวหนังอักเสบ โรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด เข้ารับรักษา ให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังและให้คำแนะนำประชาชนอย่างต่อเนื่อง ผ่านอาสาสมัครสาธารณสุข และสื่อต่างๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ท้องถิ่น

สำหรับการป้องกันผลกระทบสุขภาพจากหมอกควัน ขอให้ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด เพื่อลดความเสี่ยงการสัมผัสหมอกควัน ควรทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอเพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง สวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากและจมูกและเปลี่ยนทุกวัน และงดการทำกิจกรรมกลางแจ้งชั่วคราว เช่น ออกกำลังกาย เดินเล่น หรือทำงานหนัก หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม แสบตา ระคายคอ กรณีของหญิงตั้งครรภ์หากลูกในครรภ์ไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อยลง ให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรแจ้งที่หมายเลย 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง
สุรศักดิ์ พลอาชา / หนังสือพิมพ์บ้านเราจังหวัดตาก

*********************************************

ร้านญาดาดีไซน์ ทำป้ายและสิ่งพิมพ์ทุกชนิด
151/47 ต.วังหิน อ.เมือง จ.ตาก 63000
*********************************************
รับทำแผ่นพับ ใบปลิว ป้ายไวนิล การ์ดต่างๆ นามบัตร สิ่งพิมพ์ทุกชนิด ป้ายจังหวัดตาก รับถ่ายรูป ตามงานต่างๆ รับออกแบบจัดงานอีเว้น รับออกแบบงานเปิดตัวสินค้า รับจัดงานสัมมนา จังหวัดตากและใกล้เคียง รับทำสปอตโฆษณาสำหรับรถแห่ / บริการรถแห่ / สปอตภายในร้าน และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเสียงอีกมากมาย
TakStudio
รับถ่ายภาพ : ถ่ายพรีเวดดิ้ง ถ่ายภาพรับปริญญา ถ่ายภาพงานบวช ถ่ายภาพงานแต่ง ถ่ายภาพงานพิธีต่าง ๆ
ติดต่อ : 081 727 9759AIS, 085 970 4921TRUE
ID line : takstudio

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น