พีดีไอตาก
อีโคเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการศูนย์บริหารจัดการกากอุตสาหกรรมฯ
วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2560)
ที่ห้องประชุมวิทยาลัยชุมชนตาก ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอเมือง
จังหวัดตาก บริษัท พีดีไอตาก อีโค จำกัด
จัดประชุมเพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (ค.1)
โครงการศูนย์บริหารจัดการกากอุตสาหกรรมเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 500 กว่าคน
เพื่อรับฟังรายละเอียดโครงการฯ
นายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล นายอำเภอเมืองตาก
ซึ่งเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมฯ กล่าวว่า โครงการศูนย์บริหารจัดการกากอุตสาหกรรมเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นนี้สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์การจัดการกากอุตสาหกรรมของภาครัฐ
และยังเป็นโครงการที่พัฒนาโดยบริษัท พีดีไอตาก อีโค จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของผาแดงฯ
ซึ่งที่ผ่านมาโรงงานของผาแดงมีการตรวจสอบดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดไม่ก่อให้เกิดปัญหากับชุมชน
รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นมาร่วมพัฒนาโครงการฯ
จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินโครงการใหม่จะมีมาตรฐานที่เข้มงวดในระดับสากล
นอกจากนี้
โครงการดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกรมโรงงาน เนื่องจากเป็นโครงการที่สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์การจัดการกากอุตสาหกรรม
พ.ศ. 2558-2562 ของกระทรวงอุตสาหกรรม
ซึ่งจะทำให้กากอุตสาหกรรมได้รับการกำจัดอย่างถูกหลักวิชาการ
มีความปลอดภัยต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
ช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศและลดการลักลอบทิ้งของเสียอุตสาหกรรมอย่างผิดกฎหมาย
โครงการฯ
จะใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น
โดยได้รับการออกแบบเพื่อปกป้องปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นและการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมอย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพหลายขั้นตอน
ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดูแลและปกป้องสิ่งแวดล้อม
และดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่าบริษัทฯ จะดำเนินโครงการฯ
เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดทั้งต่อสังคม ประเทศชาติและชุมชน
สำหรับของเสียอุตสาหกรรมที่โครงการฯ รับกำจัด
ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปที่หมดอายุหรือไม่ได้ตามมาตรฐานจากกระบวนการผลิต
(เช่น ภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ) น้ำเสียจากอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ
เศษผ้าและเศษกระดาษที่ปนเปื้อนสีหรือน้ำมันหล่อลื่น เป็นต้น
โดยส่วนใหญ่จะรองรับของเสียอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ
ในช่วงแรกโครงการฯ จะใช้เงินลงทุนประมาณ 300-400 ล้า
นบาท
โดยคาดว่าจะเปิดดำเนินการภายในปี 2562
และจะมีการจ้างงานประมาณ 80 คน
การประชุมดังกล่าวเป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งแรกเกี่ยวกับโครงการ
เพื่อรับฟังข้อห่วงใยต่างๆ
และนำไปจัดทำมาตรการและสร้างความมั่นใจต่อการดำเนินโครงการฯ
พร้อมทั้งยังทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับฟังข้อมูลรายละเอียดโครงการอย่างถูกต้องและมีความเข้าใจที่ดี
หนังสือพิมพ์บ้านเรา จังหวังตาก
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ : 0994535966
pollarchar@hotmail.com
Line ID : takstudio
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น